รัฐบาลยอมปรับเกณฑ์คุมโควิด นทท. ต่างชาติ ยกเลิกตรวจหลักฐานวัคซีน หลังเอกชนท่องเที่ยวไม่พอใจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยออกมาว่าได้ยกเลิกมาตรการการตรวจ เอกสารการได้รับวัคซีน ครบ 2 เข็มแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว หลังจากภาคการท่องเที่ยว ขอให้ทบทวน คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้โดยสารจำนวน 269 คน จากสาธารรัฐประชาชนจีน เที่ยวบิน แรก เดินทางถึงไทยแล้วเมื่อ 9 ม.ค. หลังจากจีนเปิดประเทศเมื่อ 8 เดือนมกราคม
นี่คือ ความเปลี่ยนแปลงปัจจุบันของมาตรการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นายอนุทิน เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงบ่าย หลังจากมาตรการชุดใหม่ที่ออกมาเมื่อวันที่ 5 ม.ค. มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศอื่น โดยผู้ประกอบการนำเที่ยวต่างชาติจากอังกฤษ กลุ่มสแกนดิเนเวีย เยอรมนี ประเทศฝรั่งเศส และรัสเซีย ต่างแสดงความกังวลผ่านมาทาง สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต, จังหวัดพังงา และกระบี่
นายอนุทิน เจาะจงถึงเหตุที่คณะกรรมการด้านวิชาการ ภายใต้พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีมติยกเลิกการตรวจเอกสารการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติตามมาตรการที่ออกมาที่ผ่านมา เนื่องจากว่ามีความคิดเห็นว่า มีการฉีดยาอีกทั้งในไทยแล้วก็จีนจำนวนมากแล้ว
รวมถึงประเทศอื่น ๆ ทั้งโลก โดยเหตุนี้ การมุ่งเน้นการแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนจะก่อให้เกิดความไม่คล่องตัว
ส่วน เที่ยวบิน ฏแรกที่มาถึงไทย เป็นเที่ยวบิน MF833 สายการบินเซียเหมินแอร์ไลน์
เดินทางจากเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 12.50 น. ที่ผ่านมา โดยมีนายอนุทิน แล้วก็ รมว.ท่องเที่ยวฯ รัฐมนตรีว่าการ คมนาคม ให้การต้อนรับ
นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า มาตรการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนมีความเหมาะสม เน้นใช้มาตรการคุ้มครองโควิด-19 โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นด้วยหลักการเท่าเทียม
ไม่แบ่งแยกตราบจนกระทั่งจะมีสถานการณ์ต้อง รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ระบุเพราะ วันนี้จะมีเที่ยวบินขาเข้าจากจีน 15 เที่ยวบิน รวมนักท่องเที่ยว 3,465 คน คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทยผ่านทางท่าอากาศยาน 7-10 ล้านคน
ภาคการท่องเที่ยวแล้วก็บริษัททัวร์ต่างชาติกังวลอะไรบ้าง
สาระสำคัญในหนังสือที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเสนอต่อรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์อร่อย นายกรัฐข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้วก็รัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม
ลงวันที่ 7 มกราคม ได้สะท้อนข้อคิดเห็นจากบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศโดยยิ่งไปกว่านั้นในทวีปยุโรป ที่แสดงถึงความกังวลอย่างสูงสุดต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย
บริษัทนำเที่ยวประเทศอังฤษ
การประกาศดังกล่าวดำเนินการฉุกเฉินเกินไป ควรจะมีระยะเวลาแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่องบิน แล้วก็บางทีอาจไม่สามารถนำใบรับรองการฉีดยามา ก็เลยจะก่อให้ถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่องบินได้ มีความกังวลว่า ลูกค้าที่ไม่ได้ฉีดยาจะไม่สามารถเดินทางได้ และบริษัทนำเที่ยว ต้องทำการคืนเงิน ยังไม่มีประกาศอย่างเป็น ทางการจากรัฐบาล
บริษัทจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย
บริษัทนำเที่ยวไม่สามารถแจ้งลูกค้าได้ทันเรื่องการตรวจใบรับรองการฉีดยา เนื่องด้วยเป็นการประกาศในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แล้วก็มีผลบังคับใช้ทันทีในวันจันทร์ที่ 9 เดือนธันวาคม
ในส่วนลูกค้าที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนแต่ซื้อแพกเกจทัวร์ไปแล้ว จากประกาศดังกล่าวทำให้ต้องยกเลิกและคืนเงินลูกค้า ซึ่งทำให้เกิดความเสื่อมโทรมทางธุรกิจ
บริษัทนำเที่ยวประเทศเยอรมนี
คิดว่าเป็นการออกเกณฑ์ดังกล่าว ก่อให้เกิดปัญหาแล้วก็ลดความมั่นใจและความเชื่อมั่นทางการท่องเที่ยวอย่างมาก มีการยกเลิกจากลูกค้ากว่า 1,000 รูมไนท์ แล้ว หลังมีเรื่องการเปลี่ยนมาตรการดังกล่าว มาตรการดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาระหว่างบริษัททัวร์และลูกค้า เพราะมาตรการใหม่ของรัฐบาลไทยไม่เข้าข่ายที่นักท่องเที่ยวจะขอคืนเงินจากสายการบินเมื่อถูกไม่ยอมรับการเดินทาง
บริษัทนำเที่ยวประเทศฝรั่งเศส
ผู้ประกอบการนำเที่ยวมีความไม่พอใจ เนื่องจากระเบียบใหม่ถือว่าไม่เข้าข่ายการคืนเงิน ในกรณีที่ผู้โดยสารถูกปฏิเสธการเดินทางโดยสายการบิน
บริษัทนำเที่ยวฝรั่งเศสได้จะหาทางทำ Force Majeure ในการยกเลิกการเดินทางมาไทยเนื่องมาจากความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลไทย
บริษัทนำเที่ยวจากรัสเซียและก็กลุ่ม CIS
ผู้ประกอบการนำเที่ยวจากกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (อดีตสหภาพโซเวียต) ได้รับผลกระทบทางธุรกิจ เพราะเหตุว่าผู้ประกอบการส่วนมากได้ทำสัญญาแบบเช่าเหมาลำล่วงหน้า ขณะที่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวมีทั้งคนที่ได้รับวัคซีนครบและไม่ได้รับวัคซีนส่วนหนึ่ง เมื่อมีมาตรการดังกล่าวได้ก่อปัญหาต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต้องการกฎเกณฑ์และหลักปฏิบัติที่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการ
มาตรการก่อนหน้านี้ มีอะไรบ้าง
ผู้เดินทางต้องรับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 2 เข็ม
หากประเทศต้นทางมีเงื่อนไขผลตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนกลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโรคโควิด-19 หากมีอาการทางเดินหายใจให้เลื่อนเดินทาง แนะนำให้ผู้เดินทางป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เช่น สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ/ขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อย ๆ
หากมีอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และหากมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล แนะนำให้พักในโรงแรม SHA+ สำหรับผู้ต้องการทำ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับประเทศ
3 รัฐมนตรีต้อนรับ นทท. จีน เที่ยวบินแรก
เวลา 12.15 น. ของ 9 ม.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข พร้อมทั้งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวรวมทั้งกีฬา จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว จากสาธารณประชาชนจีน ซึ่งเดินทางมาประเทศไทยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังทางการจีน ทยอยเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 เดือนมกราคม
สำหรับเที่ยวบินจากจีนที่รองนายกรัฐมนตรีและคณะจะให้การต้อนรับในครั้งนี้ คือ เที่ยวบิน MF833 เดินทางมาจากเมืองเซี่ยเหมิน มีผู้โดยสารทั้งหมด 269 คน
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา นายอนุทินกล่าวว่า จากการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรกในเดือน เดือนมกราคม-มี.ค. 2566 มีประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน
โดยคาดการณ์ถึงจำนวนในแต่ละเดือน ได้แก่ เดือน มกราคม 60,000 คน เดือนกุมภาพันธ์ 90,000 คน แล้วก็ มี.ค. 150,000 คน โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อย ๆเป็นค่อย ๆ ไป เหตุเพราะเดี๋ยวนี้ยังมีเที่ยวบินจำกัด
มีระยะเวลาในการขอ ทำหนังสือเดินทางและการขอวีซ่า รวมทั้งรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองรวมทั้งเป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ